นครศรีธรรมราช – วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือ ที่ชาวนครเรียกว่า วัดพระธาตุ โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นมิ่งขวัญชาวเมืองนครศรีธรรมราชตลอดจนพุทธศานิกชนไทย หนึ่งในความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ ที่สะท้อนความงามทางศิลปะอันโดดเด่น และเป็นสัญลักษณ์สืบทอดความเชื่อทางพระพุทธศาสนาของชาวไทย มีจุดศูนย์กลางคือ “พระบรมธาตุ” หรือที่รู้จักกันดีในนาม “พระธาตุเมืองคอน” พระธาตุในรูปแบบเจดีย์ทรงระฆังแห่งนี้ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศตวรรษที่ 13 เพียบพร้อมด้วยพัฒนาการด้านสถาปัตยกรรม การก่อสร้าง และแผนผัง และเป็นที่เคารพและเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศาสนา ตลอดมา
วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ซึ่งปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศจดทะเบียนวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารให้เป็นโบราณสถาน และเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2556 คณะกรรมการมรดกโลก มีมติในการประชุมคณะกรรมการสมัยที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา รับรองวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเข้าสู่บัญชีเบื้องต้น ก่อนเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกกับทางองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
การตกแต่งไฟวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อชูจุดเด่น เสริมสร้างความสวยงามให้แก่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และ “พระบรมธาตุ” จึงได้ถูกดำเนินการขึ้นจากทางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดย บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับเลือกให้เป็นผู้ออกแบบและติดตั้งระบบแสงสว่างใหม่ ณ วัดพระมหาธาตุแห่งนี้ นอกจากนั้นฟิลิปส์ในฐานะผู้นำวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการออกแบบและติดตั้งระบบแสงสว่างใหม่นี้ โดยแนวคิดมากจากแคมเปญ นวัตกรรมฟิลิปส์ นวัตกรรมเพื่อคุณ โครงการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ สู่สังคม ที่เปิดโอกาสให้คนไทยร่วมโหวตและส่งไอเดียเพื่อให้ฟิลิปส์นำไปสร้างสรรค์ให้เป็นรูปธรรมขึ้น โดยแนวคิดชนะเลิศในหัวข้อ “ส่องสว่างความเป็นไทยสู่ชาวโลก” นั้นต้องการให้ฟิลิปส์ติดตั้งระบบแสงสว่างให้พระบรมธาตุเจดีย์ วัดมหาธาตุมหาวิหาร นครศรีธรรมราช
นายธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “การออกแบบแสงสว่างตกแต่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พิลิปส์คำนึงถึงความสำคัญและประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถานที่แห่งนี้ การดีไซน์สีของแสงให้ส่องไปยังองค์พระธาตุ ช่วยส่งเสริมให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นในยามค่ำคืน แต่ยังตอบโจทย์และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม โดยฟิลิปส์ได้กำหนดการให้สีของแสงเป็นโทนเหลืองนวล และสีขาว เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ การให้สีของแสง จึงเป็นไปในหลักเกณฑ์ที่เป็นการเคารพในความเป็นโบราณสถานสำคัญ และการออกแบบเน้นไปที่ยอดเจดีย์ที่เป็นทองคำ เมื่อใช้ไฟส่องสว่างจะยิ่งเพิ่มความงดงามมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พระบรมธาตุเจดีย์มีความสวยงาม โดดเด่น มองเห็นในระยะไกลในยามค่ำคืน”
ระบบไฟที่ใช้ในการออกแบบแสงสว่างตกแต่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารนี้ ประกอบด้วย Philips ColorBurst Powercore, Philips ColorBust Compact Powercore และ Philips ColorReach Powercore ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแสงสว่าง แอลอีดี ที่มีประสิทธิภาพสูง เฉิดฉายในฐานะแสงไฟหลัก ที่ได้รับการออกแบบคิดค้นและผลิตด้วยเทคโนโลยีสร้างสรรค์ของฟิลิปส์ เพื่อการตกแต่งแสงให้แก่สถาปัตยกรรมภายนอกอาคารและในสนามโดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากให้สีและแสงที่สวยงามแล้ว ยังประหยัดไฟและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50,000 ชั่วโมง นอกจากนี้ประหยัดเนื้อที่ในการติดตั้ง เนื่องจากโคมไฟฟิลิปส์แอลดีดี ที่ใช้นี้สามารถปรับและเปลี่ยนสีของแสงได้ในโคมเดียว
"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฟิลิปส์มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่าแก่สังคมไทย เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพของประชาชนไทยทั่วประเทศ ในครั้งนี้ ฟิลิปส์มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนร่วมกับองค์กรท้องถิ่นและชาวนครศรีธรรมราช ในการออกแบบและตกแต่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ให้งดงาม โดดเด่น เป็นที่เคารพสักการะ สืบทอดพระพุทธศาสนาของชาวไทย และเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของชาวไทยทั้งประเทศ พร้อมยังเป็นการส่งเสริมให้สถานที่นี้เป็นที่รู้จักและดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวชม สร้างอาชีพให้พ่อค้า แม่ขายในท้องถิ่น ก่อให้เกิดรายได้แก่ชุมชนต่อไป ตามเป้าหมายของแคมเปญ นวัตกรรมฟิลิปส์ นวัตกรรมเพื่อคุณ" นายธนากรกล่าวสรุป