กรุงเทพ ประเทศไทย – บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง เปิดแคมเปญ Philips Love Earth Days (LED) หั่นราคาหลอดไฟฟิลิปส์ LED เหลือเพียง 199 บาท นำเสนอทางเลือกใหม่กระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยหันมาใช้หลอดไฟฟิลิปส์ LED เพื่อการประหยัดค่าไฟ ลดใช้พลังงาน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแสงสว่างอันดับ 1 ในประเทศไทย
คุณธนากร วงศ์วิเศษ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฟิลิปส์มุ่งมั่นที่จะรุกตลาดหลอดไฟ LED เต็มกำลัง เพราะเล็งเห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี แต่พบว่าอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลอดแอลอีดียังไม่ได้รับความนิยมและยอมรับมากนักคือ หลอดแอลอีดี ยังมีราคาที่สูงอยู่ ดังนั้น ฟิลิปส์จึงเปิดแคมเปญ Philips Love Earth Days นำเสนอหลอดไฟฟิลิปส์ LED ในราคาใหม่ที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ได้มากขึ้น ”
ภายใต้แคมเปญนี้ฟิลิปส์วางจำหน่ายหลอดไฟ/ฟิลิปส์ LED ขนาด 5 วัตต์ ในราคา 199 บาท ขนาด 8 วัตต์ ราคา 270บาท ขนาด 10 วัตต์ ราคา 360 บาท และขนาด 13 วัตต์ ราคา 470 บาท โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2556 ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศกว่า 8,000 ร้าน ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านโคมไฟตกแต่งฟิลิปส์
คุณธนากรกล่าวว่า “ฟิลิปส์คาดว่าจะสามารถกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี ทดแทนหลอดเดิมเพิ่มมากขึ้น เพราะหลอดไฟแอลอีดีของฟิลิปส์ ติดตั้งง่าย สามารถเปลี่ยนทดแทนหลอดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบไฟใหม่ สามารถประหยัดไฟได้สูงสุดถึง 85% อายุการใช้งานยาวนาน 15 ปี และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะปราศจากสารปรอท”
ฟิลิปส์จัดให้มีการเปิดตัวแคมเปญ Philips Love Earth Days อย่างเป็นทางการ โดยเนรมิตหลอดไฟฟิลิปส์ LED กว่า 10,000 หลอดสร้างเป็นประติมากรรม Philips Magic Tree ที่มีความสูงกว่า 4 เมตร และทุ่งดอกไม้ Philips LED ณ ลานหน้าศูนย์การค้าอมรินทร์พลาซ่า แสดงให้เห็นถึงความสวยงามและยังสามารถสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นถึงประสิทธิภาพและข้อดีของหลอดไฟฟิลิปส์ LED ให้ผู้บริโภคได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด สำหรับ Philips Magic Tree และทุ่งดอกไม้ Philips LED ที่ใช้หลอดไฟ ฟิลิปส์ LED จำนวน 10,000 หลอดนั้น ทางฟิลิปส์ได้เปรียบเทียบค่าไฟ หากเปลี่ยนหลอดไส้มาเป็นหลอดไฟฟิลิปส์ LED ในจำนวนที่เท่ากัน จะประหยัดไฟได้ถึง 88% หรือ 6,000 บาท ต่อวัน (คำนวณจากค่าไฟ 3.7 บาทต่อหน่วย เปิดไฟวันละ 4 ชั่วโมง) ซึ่งเทียบเท่ากับการปิดไฟของคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่และหมู่บ้านขนาดกลางใน 1 วันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ฟิลิปส์พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจถ่ายรูปกับ Philips Magic Tree ส่งเข้าประกวดผ่าน www.facebook.com/philipslightingthailand ในระหว่างวันที่ 14 - 18 พฤษภาคม 2556 แข่งขันเพื่อรับรางวัลพิเศษจากฟิลิปส์ และยังวางแผนที่จะโปรโมทแคมเปญนี้โดยจัด roadshow ทั่วประเทศ ทำกิจกรรม ณ จุดขาย และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสื่อสารข้อมูลให้ถึงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
คุณธนากร กล่าวว่า “จุดประสงค์ของแคมเปญนี้นอกจากจะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับข้อดีของหลอดไฟ LED แล้ว ยังต้องการกระตุ้นให้ผู้บริโภคตามบ้านเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ให้เร็วยิ่งขึ้น และเลือกหลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพ เพราะในปัจจุบันประเทศไทยเริ่มมีการใช้เทคโนโลยี LED Lighting เพื่อทดแทนระบบไฟแบบเดิมไปบ้างแล้ว แต่จะแพร่หลายในเฉพาะกลุ่มของลูกค้าธุรกิจเท่านั้น ยังไม่ขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปมากเท่าที่ควรเพราะราคาของหลอดไฟ LED ที่จำหน่ายในท้องตลาดยังมีราคาค่อนข้างสูง ”
ในปีนี้ฟิลิปส์จะเปิดตัวหลอดไฟ LED กว่า 40 รุ่น นอกเหนือไปจากหลอดไฟ Philips LED MR 16 ที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ) ไปแล้ว และยังมีแผนแนะนำผลิตภัณฑ์โคมไฟที่มี LED เป็นส่วนประกอบอีกมากกว่า 500 รุ่น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดหลอดไฟ LED การทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งผ่านช่องทาง online และการทำกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสิทธิภาพของสินค้าได้โดยตรง
นอกจากการทำกิจกรรมกับกลุ่มลุกค้าทั่วไปแล้ว ฟิลิปส์ยังคงรุกตลาดอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งเน้นไปที่การจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีแสงสว่าง LED และการให้บริการและปรึกษาเกี่ยวกับระบบแสงสว่างแบบครบวงจร ทั้งการออกแบบ การคำนวณจุดคุ้มทุน รวมถึงการบริการด้านติดตั้ง และอีกหนึ่งกิจกรรมใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ของปีนี้คือ การเข้าเป็นพันธมิตรกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สนับสนุนการจัดงาน Thailand’s LED Expo 2013 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม 2556 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยฟิลิปส์จะจัดแสดงโซลูชั่นเทคโนโลยี LED ล่าสุดเพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสถึงประสิทธิภาพและคุณสมบัติของเทคโนโลยี LED
คุณธนากร กล่าวว่า “ตลาดหลอดไฟประหยัดพลังงานมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้งนี้สาเหตุหลักมาจากเนื่องจากทั่วโลกเกิดปัญหาราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและวิกฤตขาดแคลนแหล่งพลังงาน รวมไปถึงปัญหาโลกร้อนที่เป็นภัยคุกคามที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ทั้งองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนในหลายๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และเริ่มที่จะหาโซลูชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ดังนั้นฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านแสงสว่างอันดับ 1 ของโลก เล็งเห็นว่า จากการใช้พลังงานทั้งหมด 1 ใน 5 เป็นการพลังงานเพื่อกำเนิดแสงสว่าง ซึ่งหากมีการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมจะทำให้ใช้พลังงานเป็นไปอย่างคุ้มค่า และในปัจจุบันเทคโนโลยีแสงสว่าง LED ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพสูงสามารถตอบสนองการใช้งานได้ในทุกๆ แอพพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็น บ้าน อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าโรงแรม โรงงาน และระบบไฟสำหรับใช้ในงานสาธารณูปโภคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
คุณธนากร กล่าวว่า “แคมเปญ Philips Love Earth Days เป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นเพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยสามารถประหยัดพลังงานด้วยวิธีง่ายๆ โดยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ในราคาที่เหมาะสม ให้ผู้ใช้ไฟฟ้ามีทางเลือกในการลดใช้พลังงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยตรง และช่วยชาติประหยัดพลังงานแล้ว ยังสามารถช่วยสังคมและโลกในการลดภาวะโลกร้อนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย”